top of page

OEM และ ODM คือ อะไร?

แม้ว่าหลายคนมักจะสับสนระหว่างคำสองคำนี้และใช้แทนกันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงสิ่งเดียวกันอย่างแน่นอน OEM คือการผลิตสินค้าตามการออกแบบที่ลูกค้ามอบให้ ในขณะที่ผู้ผลิต ODM ออกแบบผลิตภัณฑ์บางส่วนหรือทั้งหมดด้วยตนเองก่อนทำการผลิตให้กับลูกค้า บทความนี้จะช่วยอธิบายความแตกต่างและประโยชน์ระหว่างการผลิตทั้งสองประเภท


OEM & ODM ต่างกันอย่างไร?

OEM : Original Equipment Manufacturer


OEM (Original Equipment Manufacturer) คือการผลิตสินค้าของลูกค้าที่ออกแบบโดยลูกค้ารายนั้นอย่างเต็มที่แล้วจึงทำสัญญาเพื่อผลิต ตัวอย่างเช่น Apple iPhone ถูกคิดค้นและออกแบบโดย Apple จากนั้นจึงทำสัญญากับ Foxconn เพื่อจ้างผลิต ด้วยเหตุนี้ iPhone จึงมีความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการออกแบบนั้นเป็นแบบเฉพาะสำหรับ Apple และผู้ผลิตที่ทำสัญญาด้วยเท่านั้น


ข้อได้เปรียบหลักของ OEM คือ ลูกค้ายังคงควบคุมการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ทั้งหมด เมื่อเป็น OEM จะมีข้อจำกัดด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย

OEM & ODM ต่างกันอย่างไร? KRUNGTEPTIPP รับผลิตอาหารเสริม

ข้อดีอีกประการของการใช้ OEM เทียบกับ ODM คือความยืดหยุ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ OEM สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนดใดๆ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ ODM ถูกจำกัดให้มีการออกแบบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า


ข้อเสียของการผลิตแบบ OEM คือการใช้ทรัพยากรในระดับสูงเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร ทรัพยากรเหล่านี้รวมถึงต้นทุนการวิจัยและพัฒนาพร้อมกับเวลาที่จำเป็นในการสร้างการออกแบบก่อนที่จะพร้อมที่จะผลิต การลงทุนเหล่านี้มักจะค่อนข้างสูงและนำความเสี่ยงมาสู่บริษัท



ODM : Original Design Manufacturing


ODM (Original Design Manufacturer) ในกรณีนี้ ผู้ผลิตมีการออกแบบผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว และลูกค้าอาจทำการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเช่นเปลี่ยนใช้เครื่องหมายการค้าตัวเองหรือขายภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเอง ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ การสร้างแบรนด์ สี หรือ บรรจุภัณฑ์

OEM & ODM ต่างกันอย่างไร? KRUNGTEPTIPP รับผลิตอาหารเสริม

ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ ODM เช่น ที่ชาร์จในรถยนต์ หากดูที่ชาร์จในรถบนเว็บไซต์ Amazon คุณจะเห็นบริษัทหลายแห่งที่มีการออกแบบเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆจะถูกผลิตขึ้นโดยใช้การออกแบบที่มีแม่แบบทั่วไปเหมือนกัน แต่ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นจะมีตราสินค้า การกำหนดสี และบรรจุหีบห่อที่แตกต่างกันตามข้อกำหนดของผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างผลิตแต่ละราย


นอกเหนือกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์กีฬามักจะมีผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน นี่เป็นอีกตัวอย่างของการผลิตสินค้าแบบ ODM


ข้อดีของการผลิต ODM คือ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องลงทุนมากหรือเสียเวลา ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลูกค้าจึงสามารถทุ่มเทเวลาและเงินให้กับกลยุทธ์ทางการตลาดได้มากขึ้น


ประโยชน์อีกประการของการใช้ผู้ผลิต ODM คือ ต้นทุนต่อหน่วยของผลิตภัณฑ์ลดลงเนื่องจากผู้ผลิตสามารถส่งมอบสินค้าแบบเดียวกันในปริมาณมาก


ข้อเสียของ ODM คือ อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สินค้านั้นโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งเนื่องจากการออกแบบเดียวกันในราคาที่ใกล้เคียงกัน การแข่งขันด้านราคาจำนวนมากนี้มักหมายถึงกำไรที่ลดลง



สรุปข้อสังเกตที่สำคัญ


เมื่อตัดสินใจใช้ OEM หรือ ODM จะต้องพิจารณาถึงทรัพยากรที่มีอยู่จริง หากบริษัทมีงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา พร้อมแผนเวลาในการออกสู่ตลาดที่เหมาะสม การใช้ OEM ก็ถือว่าเหมาะสม หากเวลาและทรัพยากรมีจำกัด ODM คือ ทางเลือกที่อาจเหมาะสมมากกว่า

OEM & ODM ต่างกันอย่างไร? KRUNGTEPTIPP รับผลิตอาหารเสริม

Credit : ภาพแสดงประกอบตัวอย่างจาก China Trade Blog

 

บริการให้คำปรึกษา OEM & ODM ฟรี! LINE OA: @oem.krungteptipp https://line.me/R/ti/p/@oem.krungteptipp?from=page วันและเวลาทำการ​ จันทร์-เสาร์ | 08:30 - 17:00 OEM Account Executive โทร. 062-823-9262 #รับผลิตอาหารเสริม #ONESTOPSERVICE #โรงงานผลิตอาหารเสริมที่เป็นมากกว่าผู้ผลิต

Comments


bottom of page